เกร็ดความรู้

ราชาของแหล่งพลังงาน: ดีเซล หรือ ลิเธียม?
11 มิถุนายน 2563 14:47 น.

เป็นที่ถกเถียงกันอยู่ในขณะนี้สำหรับเรื่องแหล่งพลังงานแบตเตอรี่ระหว่างดีเซล หรือ ลิเธียม

 

เมื่อพูดถึงรถยนต์ที่เราขับดูเหมือนว่าแบตเตอรี่จะชนะแน่นอน ถ้ารัฐบาลสหราชอาณาจักรบรรลุเป้าหมาย ในปี 2040 เชื้อเพลิงรถยนต์จะถูกห้าม อย่างไรก็ตาม ถ้าหากเราดูที่รถที่ใช้ในคลังสินค้าและอุปกรณ์ขนย้ายวัสดุสำหรับอุตสาหกรรมค้าปลีก การผลิตและการจัดจำหน่าย แหล่งพลังงานไหนจะดีมากกว่ากัน?ไม่ว่าคุณกำลังคิดที่จะมีรถยกไฟฟ้าใหม่ (Reach Truck และ Forklift) หรือรถยกสูง สิ่งสำคัญในการพิจารณา คือ องค์ประกอบทั้งหมด เมื่อต้องดูระหว่างดีเซล หรือ แบตเตอรี่ลิเธียม ในการทำงานแต่ละวันต้องคำนึงถึงค่าใช้จ่ายต่างๆในการบำรุงรักษา รวมถึงการจัดการสภาพแวดล้อมอีกด้วย

 

แบตเตอรี่ลิเธียมคืออะไร?

ขณะที่เราทุกคนคุ้นเคยกับเทคโนโลยีของดีเซล แบตเตอรี่ลิเธียม (หรือลิเธียมไอออน) ดูเหมือนจะเป็นเทคโนโลยีที่ค่อนข้างใหม่ ซึ่งเราหลายคนอาจมีประสบการณ์น้อยกว่าหรือคุ้นเคยน้อยกว่า ไม่ว่าเราจะคิดว่าเทคโนโลยีแบตเตอรี่ลิเธียมใหม่แค่ไหน มันก็ไม่ได้ใหม่เท่าที่เราคิดเอาไว้ เพราะแบตเตอรี่ลิเธียมถูกค้นพบครั้งแรกในปี 1970 และมีการใช้อย่างแพร่หลายในเชิงพาณิชย์มาตั้งแต่ยุค 90 แล้วเรา GT Mover เป็นผู้นำทางด้านเทคโนโลยีแบตเตอรี่ลิเธียม (Lithium-ion battery) และนำข้อได้เปรียบของเทคโนโลยีใหม่นี้มาใช้เพื่อสร้างกำไรให้กับคลังสินค้า

เมื่อปีที่แล้วรถยกพาเลทไฟฟ้า (Powered Pallet Trucks) รุ่น DUROK 1.2Z ของเราเป็นรถยกพาเลทที่ขายดีที่สุดในโลก แบตเตอรี่ลิเธียมของเราผลิตขึ้นในโรงงานของเราเอง และ มีระบบ BMS ที่พัฒนาภายในบริษัทของเรา - ระบบการจัดการแบตเตอรี่ช่วยให้มั่นใจได้ว่าอายุการใช้งานแบตเตอรี่ยาวนานที่สุด และปลอดภัยไม่ต้องสงสัยเลยว่าเทคโนโลยีแบตเตอรี่ยังคงพัฒนาอย่างต่อเนื่อง และเป็นที่ดึงดูด และน่าจับตามองสำหรับการลงทุนและเป็นแหล่งทรัพยากรจากทั้งภาคอุตสาหกรรมและภาคการศึกษาอย่างแน่นอน หากการเปลี่ยนขั้นตอนจากแบตเตอรี่ตะกั่วกรดเป็นแบตเตอรี่ลิเธียมเป็นสิ่งที่ต้องทำ เราสามารถมั่นใจได้ว่าพลังงานแบตเตอรี่จะยังคงมีประสิทธิภาพและเป็นประโยชน์ต่ออุตสาหกรรมของเราต่อไปเรา GT Mover คิดว่าแบตเตอรี่ลิเธียมให้ข้อได้เปรียบอย่างชัดเจน เราได้ใช้ข้อดีเหล่านี้ของแบตเตอรี่ลิเธียม เพื่อสร้างอุปกรณ์ขนย้ายรุ่นใหม่ๆ รวมถึง Smart Trucks ต่างๆด้วย: LIST - Lithium Integrated Smart Truck อุปกรณ์ขนย้ายเหล่านี้ใช้ประโยชน์อย่างเต็มที่จากเซลล์ขนาดเล็ก และ ยืดหยุ่นของลิเธียม  และยังมอบประสบการณ์การขับขี่แบบใหม่ให้กับผู้ขับขี่อีกด้วย

ในขณะเดียวกัน GT Mover ได้ทำการปรับโฉมผลิตภัณฑ์ที่มีอยู่ให้เป็นแบตเตอรี่ลิเธียมอย่างเต็มรูปแบบในปี 2018 เพราะเราเล็งเห็นอนาคตของรถยกที่ใช้แบตเตอรี่ลิเธียม (Li-ion Forklifts)

 

รักษาสิ่งแวดล้อมจริง หรือ หลอกลวง?

การพัฒนาอย่างยั่งยืนไม่ได้เป็นเพียงแค่คำศัพท์ หรือ คำพูดธรรมดาๆ แต่เป็นหัวใจหลักของค่านิยมที่หลายๆบริษัทกำลังให้ความสนใจ และเป็นการสร้างธุรกิจของพวกเขา

แบตเตอรี่ลิเธียม ทำให้คลังสินค้าของคุณเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากกว่าพลังงานแบบดีเซลเราไม่เพียงแต่พูดถึงสภาพแวดล้อมทั่วโลก แต่ยังหมายถึงภายในคลังสินค้าอีกด้วย ควันจากการเผาผลาญพลังงานดีเซลอาจเป็นปัญหาใหญ่ การระบายอากาศและการตระหนักรู้ที่เหมาะสมนั้นเป็นสิ่งจำเป็น เพื่อให้แน่ใจว่าอุปกรณ์ขนย้ายในคลังสินค้าที่ทำงานโดยเครื่องยนต์ดีเซลไม่ได้ส่งผลกระทบต่อสุขภาพของผู้ขับขี่และบุคคลรอบข้างการทำงานของอุปกรณ์ขนย้ายแบบแบตเตอรี่ลิเธียมจะเงียบกว่า และไม่ปล่อยมลพิษ ทำให้สภาพแวดล้อมในการทำงานของคุณสะอาดและสะดวกสบายมากขึ้น รวมถึงยังมีประสิทธิผลมากยิ่งขึ้น การลดหรือไม่มีมลพิษทางเสียง หรือ มลพิษทางอากาศทำให้เราสามารถมีผลตอบแทนที่มากขึ้นโดยเฉพาะเมื่อใช้งานในอาคาร หากคุณกำลังจะทำงานในอาคาร หรือที่ร่มเป็นส่วนใหญ่ ซึ่งก็จะเป็นวิธีที่ชัดเจนในการแก้ปัญหาพลังงานแบตเตอรี่

 

มันคุ้มค่าหรือไม่?

รายการตรวจสอบแรกๆ คือ การเปรียบเทียบค่าใช้จ่ายทางการเงินระหว่างอุปกรณ์ขนย้ายที่ใช้เครื่องยนต์ดีเซล และ แบตเตอรี่ลิเธียม เมื่อพูดถึงค่าใช้จ่ายล่วงหน้าสำหรับคุณภาพที่ไม่เหมือนใคร เป็นที่คาดหวังว่าการลงทุนครั้งแรกที่จำเป็นสำหรับอุปกรณ์ขนย้ายที่ใช้แบตเตอรี่ลิเธียมจะสูงกว่าของดีเซล นี่เป็นผลมาจากการที่ต้องจ่ายค่าแบตเตอรี่และอุปกรณ์เครื่องชาร์จพลังงานแบตเตอรี่จะให้ความสมดุลในการลดค่าใช้จ่ายในการทำงาน - เนื่องจากไม่ต้องคอยเติมน้ำมันดีเซลให้เต็มถังอยู่ตลอดเวลา ค่าใช้จ่ายในการใช้พลังงานแบตเตอรี่ถูกกว่าเมื่อเทียบกับการเติมเชื้อเพลิงให้เต็มถังสำหรับการขับเคลื่อนรถยก หรือ Forklift

เมื่อลงทุนในรถยก หรือ ฟอร์คลิฟท์ลิเธียมแล้ว ค่าใช้จ่ายในการทำงานจะต่ำกว่ารถยกแบบดีเซลข้อดีของไฟฟ้าที่มักถูกมองข้าม คือ การลดค่าบำรุงรักษา เป็นธรรมชาติของมนุษย์ที่คาดหวังว่าเทคโนโลยีใหม่ มักจะมีความยากและมีราคาแพงกว่าในการดูแล และบำรุงรักษา แต่สิ่งนี้ไม่ได้เกิดขึ้นกับอุปกรณ์ขนย้ายไฟฟ้า ไม่ว่าจะเป็นในส่วนของผู้บริโภคหรือภาคคลังสินค้า ไม่มีคลัตช์หรือกระปุกเกียร์ที่จะต้องคอยดูแลรักษา ในความเป็นจริงมีชิ้นส่วนไม่กี่ชิ้นที่เคลื่อนไหว และชิ้นส่วนแต่ละชิ้นมีความดันน้อยกว่าชิ้นส่วนในเครื่องยนต์แบบสันดาปรถยก หรือ รถฟอร์คลิฟท์รุ่น GTEF4D15-35L1 ของเราเป็นรถยกไฟฟ้าที่ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยีแบตเตอรี่ลิเธียม และสร้างความแตกต่างให้กับคลังสินค้าของคุณ ฟอร์คลิฟท์รุ่นนี้สามารถรองรับได้ตั้งแต่ 1.5-3.5 ตัน และรถฟอร์คลิฟท์ L1 เป็นรถยกรุ่นแรกของเราที่สร้างขึ้นด้วยเทคโนโลยีลิเธียม ซึ่งสามารถสร้างความแตกต่างอย่างแท้จริงให้กับคลังสินค้าของคุณ

 

การใช้งานประจำวัน

เช่นเดียวกับประโยชน์ต่อสภาพแวดล้อมที่ดีในคลังสินค้า รถยกไฟฟ้าแบบลิเธียมจะมีขนาดกะทัดรัดกว่ารถยกแบบดีเซล ง่ายต่อการใช้งานโดยเฉพาะในพื้นที่แคบและต้องการลดผู้ขับขี่หรือผู้ปฏิบัติงานให้น้อยลง ในทางตรงกันข้ามรถยกดีเซลจะมีขนาดใหญ่กว่าและน้ำหนักมากกว่า และยังเพิ่มพื้นที่ในการใช้งาน และการจัดเก็บภายในคลังสินค้าอีกด้วยค่าใช้จ่ายสำหรับการทำงานในแต่ละวันของรถยกแบตเตอรี่ลิเธียมนั้นต่ำกว่ารถยกแบบดีเซลมาก กล่าวคือ การใช้งานของรถยกแบบดีเซลมีราคาประมาณ 25 ปอนด์ต่อวัน เมื่อเทียบกับการใช้งานรถยกแบบลิเธียมนั้นเพียง 3 ปอนด์ต่อวันการจัดการแบตเตอรี่ที่ดีจะทำให้ได้ประโยชน์สูงสุดจากรถยกไฟฟ้า

GT Mover รถยกลิเธียมของเรามาพร้อมกับประโยชน์ของเทคโนโลยีการจัดการแบตเตอรี่ (BMS) เราขอแนะนำให้คุณมีแบตเตอรี่สองก้อนสำหรับรถยกแต่ละคัน เพื่อให้มั่นใจได้ว่าคุณสามารถชาร์จแบตเตอรี่ในขณะที่ยังสามารถใช้งานรถยกของคุณได้อย่างเต็มที่ระบบการจัดการแบตเตอรี่ของเรา ทำให้แน่ใจได้ว่าคุณจะได้รับประโยชน์สูงสุดจากแบตเตอรี่ลิเธียม และรับประกันการใช้งานที่ปลอดภัยและเป็นการปกป้องแบตเตอรี่ให้ใช้งานได้อย่างยาวนานแบตเตอรี่ลิเธียมทำลายตำนานเก่าแก่มากมายที่เกี่ยวกับเทคโนโลยีแบตเตอรี่ รถยกลิเธียมได้รับการจัดการอย่างเหมาะสมสามารถทำงานให้กับคุณได้ตลอดเวลา 24 ชั่วโมง เวลาในการชาร์จสำหรับรถยกลิเธียมสามารถชาร์จได้ในไม่กี่นาที ไม่ถึงขนาดหลายชั่วโมง และลูกค้าของเราหลายคนกำหนดเวลาการชาร์จนี้เมื่อผู้ขับขี่หยุดพักเบรค หรือใช้แบตเตอรี่เสริมเพื่อให้สามารถชาร์จได้ในขณะที่รถยกของคุณยังทำงานอยู่ คุณต้องถามตัวเองว่า การชาร์จรถยกที่ขับเคลื่อนด้วยแบตเตอรี่ลิเธียมและสามารถนำกลับมาใช้งานภายในเวลา 15 - 30 นาที เปรียบเทียบกับการนำรถยกออกจากการทำงาน และต้องเติมน้ำมันดีเซลลงถัง และงานที่เกี่ยวข้องอื่นๆ ยังรวมถึงการจัดการด้านความปลอดภัยในการทำงานลักษณะนี้อีกด้วยตราบใดที่คุณวางแผนกำหนดการชาร์จอย่างชัดเจน วิธีการเช่นนี้ประกอบกับค่าใช้จ่ายที่คุ้มค่าในการจ่ายค่าไฟ ค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษาน้อย และลดความเสี่ยงของการหยุดทำงานโดยไม่ได้วางแผน ทำให้หลายๆองค์กรตัดสินใจว่า แบตเตอรี่ลิเธียมเป็นทางเลือกสำหรับพวกเขา

การตัดสินใจที่ถูกต้อง

เห็นได้ชัดว่า ไม่ยากเลยที่ในอนาคตเราจะเห็นทุกคนขับรถพลังงานไฟฟ้าแบบลิเธียมในที่ทำงาน หากคุณทำงานในอาคารเป็นหลัก ให้ซื้ออุปกรณ์ขนย้ายเป็นมูลค่ารวมมากกว่าสินค้า และต้องมีสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัยและสะอาดกว่าด้วยค่าใช้จ่ายที่สามารถคาดเดาได้ มันอาจเป็นการตัดสินใจในปัจจุบัน ไม่ใช่อนาคต

ต้องการข้อมูลรถยกลิเธียมเพิ่มเติม ติดต่อเรา GT Mover ได้ 02 012 1800-4

ข่าวสารทั้งหมด