เกร็ดความรู้

ใช้รถฟอร์คลิฟท์อย่างไรให้ปลอดภัยหายห่วง?
11 มิถุนายน 2563 14:56 น.

การใช้งานรถฟอร์คลิฟท์อย่างถูกวิธีจะช่วยเพิ่มความปลอดภัยในการทำงาน รวมถึงช่วยลดความสูญเสียที่จะเกิดกับสินค้า ผู้ขับขี่รถฟอร์คลิฟท์จึงต้องทำความเข้าใจระบบต่างๆ และต้องมีความระมัดระวังในการขับขี่เป็นอย่างมาก

เกร็ดความรู้เกี่ยวกับข้อควรระวังในการขับขี่รถฟอร์คลิฟท์ มีดังนี้

  • ห้ามบุคคลซึ่งไม่มีหน้าที่ หรือไม่ได้รับมอบหมายจากผู้บังคับบัญชาทำการขับขี่รถฟอร์คลิฟท์โดยเด็ดขาด
  • ผู้ขับขี่ควรสวมใส่เสื้อผ้าและอุปกรณ์ป้องกันตัวที่เหมาะสม เช่น เสื้อสะท้อนแสง หมวกนิรภัย เป็นต้น
  • ก่อนใช้งานรถฟอร์คลิฟท์ในแต่ละครั้ง ผู้ขับขี่ต้องทำการตรวจสอบสภาพรถทุกครั้ง เช่น สภาพภายนอก ระบบบังคับการ ระบบห้ามล้อ ฯลฯ
  • ผู้ขับขี่ต้องสวมเข็มขัดนิรภัยทุกครั้งก่อนเริ่มใช้งานรถฟอร์คลิฟท์
  • ในขณะที่มีการขับขี่รถฟอร์คลิฟท์ ห้ามบุคคลอื่นโดยสารหรือขึ้นไปอยู่บนรถ
  • ใช้ความเร็วในการขับขี่ที่เหมาะสม และลดความเร็วลงขณะเข้าโค้งหรือทำการเลี้ยว
  • เมื่อยกของที่มีขนาดใหญ่กว่าช่วงความยาวของงา จะต้องทำการผูกมัดของที่ยกให้ยึดติดมั่นคงกับรถฟอร์คลิฟท์ ห้ามเคลื่อนย้ายสินค้าที่ไม่มีความมั่นคงโดยเด็ดขาด เนื่องจากอาจทำให้เกิดการเทน้ำหนักและพลิกคว่ำได้
  • ห้ามใช้ปลายงาในการดัน เข็น หรืองัดสินค้าโดยเด็ดขาด เพราะอาจทำให้งาและระบบการยกเสียหาย
  • หากใช้งานรถฟอร์คลิฟท์ในที่แคบหรือทัศนวิสัยไม่ดี ให้ใช้ความเร็วต่ำและควรมีบุคคลช่วยสังเกตทาง ใช้สัญญาณมือ แสง (ไฟฉาย) เสียง (นกหวีดหรือโทรโข่ง) เพื่อช่วยในการนำทาง
  • ห้ามบรรทุกของหนักเกินกว่าที่กำหนดไว้ และห้ามบรรทุกของสูงเกินไป เพราะจะบังสายตาของผู้ขับขี่
  • ห้ามทำการยก หรือบรรทุกของเกินอัตราที่พื้น หรือกระดานทางลาดจะรับน้ำหนักไว้ได้
  • ผู้ขับขี่รถฟอร์คลิฟท์ต้องสำรวจเส้นทางให้แน่ใจว่า เส้นทางที่จะควบคุมรถให้วิ่งไปนั้น มีความสูงและความกว้างเพียงพอที่รถจะวิ่งผ่านไปได้ และไม่มีสิ่งกีดขวาง
  • ก่อนจะเคลื่อนรถฟอร์คลิฟท์ ต้องยกงาให้พ้นจากพื้นไม่ต่ำกว่า 10 เซนติเมตร และเมื่อรถฟอร์คลิฟท์วิ่งให้ยกงาสูงกว่าระดับพื้นไม่เกิน 30 เซนติเมตร
  • ให้บีบแตร ขณะข้ามทางแยก และขณะลอดผ่านประตู หรือที่ๆมีจุดบอดที่ไม่สามารถมองเห็นรอบข้างได้ชัดเจน
  • เมื่อเลิกใช้งานรถฟอร์คลิฟท์ ต้องปล่อยงาให้ลงต่ำแตะพื้น ในลักษณะวางขนานกับพื้น พร้อมทั้งดึงเบรคมือก่อนดับเครื่อง ถ้าจอดไว้ในบริเวณที่เป็นพื้นเอียงต้องใช้ไม้หมอนยันล้อไว้ เพื่อป้องกันรถไหล
  • ควรปรับระยะกว้างของงาให้กว้างที่สุด และพอเหมาะกับพื้นรองยก เพื่อไม่ให้วัสดุเอียงตก และเพื่อกระจายน้ำหนัก
  • การสอดงา ควรให้งาทั้งสองห่างจากศูนย์กลางพื้นรองยกเท่ากัน เพื่อรักษาสมดุลของวัตถุ
  • เมื่อต้องการใช้รถฟอร์คลิฟท์ในสถานที่ที่มีแสงสว่างไม่เพียงพอ หรือในเวลากลางคืน ต้องมีไฟส่องสว่างทางข้างหน้า และรอบบริเวณทำงาน
  • ตรวจสอบสภาพหน้างานก่อนนำรถฟอร์คลิฟท์เข้าไปใช้งาน หลีกเลี่ยงพื้นที่ที่ไม่เหมาะสม เช่น พื้นขรุขระ เปียกแฉะ หรือบริเวณที่มีสารเคมี หรือไอระเหยต่างๆ เพื่อป้องกันการกัดกร่อน สนิมและความเสียหายอื่นๆ ที่จะเกิดขึ้นกับตัวรถ
  • สำหรับรถฟอร์คลิฟท์ไฟฟ้าควรตรวจสอบแบตเตอรี่ให้อยู่ในสภาพดีเสมอ เช็คระดับน้ำกลั่นให้เหมาะสม อย่าปล่อยให้น้ำกลั่นแห้ง รักษาความสะอาดของเซลล์และตัวถัง หลีกเลี่ยงการใช้งานจนรถตัดการทำงานหรือแบตเตอรี่หมดไฟ เพราะจะทำให้แบตเตอรี่เสื่อมสภาพ
  • ในการเติมไฟแบตเตอรี่ ควรเริ่มเติมเมื่อระดับไฟเหลือประมาณ 20% และเสียบไว้จนไฟเต็ม หลีกเลี่ยงการเติมไฟแบบไม่ต่อเนื่อง (เช่น ถอดเสียบระหว่างพักเบรค) เพราะจะทำให้อายุของแบตเตอรี่ลดลง

เพียงแค่ใช้งานรถฟอร์คลิฟท์ตามวิธีข้างต้น ก็สามารถช่วยป้องกันความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นกับสินค้า ตลอดจนอันตรายที่อาจเกิดขึ้นกับผู้ขับขี่หรือผู้อื่นได้ นอกจากนี้การเลือกใช้รถฟอร์คลิฟท์ที่มีคุณภาพ ได้รับมาตรฐานก็เป็นอีกวิธีหนึ่ง

ข่าวสารทั้งหมด